กรณี “สจ.โต้ง” ชัยเมศร์ สิทธิสนิทพงศ์ ถูกยิงเสียชีวิตในบ้าน “โกทร” สุนทร วิลาวัลย์ นายกอบจ. ปราจีนบุรี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ไม่เพียงสะเทือนเลื่อนลั่นแวดวงการเมืองท้องถิ่น หากยังช็อกไปถึงวงการมวย
“สจ.โต้ง” มีชื่อเดิมว่า เต็มพงษ์ ฤทธิ์เดช เป็นที่รู้จักของคนในพื้นที่ปราจีนบุรี จากบทบาทนักการเมืองท้องถิ่น เคยดำรงตำแหน่ง ส.อบจ.ปราจีนบุรี หลายสมัย แต่สมัยที่แล้วปี 2565 สจ.โต้ง เว้นวรรคไม่ลงสมัครชิงตำแหน่งหันมามุ่งมั่นในเส้นทางมวยไทย ผลักดันค่าย “สจ.โต้งปราจีน” จนมีชื่อเสียง และตัวเองก็กลายเป็นคนดังในวงการยุคปัจจุบัน
ค่าย “สจ.โต้งปราจีน” มีนักมวยดังๆ ในสังกัดหลายคนอย่างเช่น “เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” ยอดมวยดังจากรายการ One Championship และ “ฉัตรเพชร สจ.โต้งปราจีน” เจ้าของเข็มขัดแชมป์หลายเส้น
ว่ากันว่า “เสือคิม” และ “ฉัตรเพชร” ถือเป็นคู่บารมีของ สจ.โต้ง ที่มีผลการชกติดตาตรึงใจแฟนมวย และสร้างอัตราได้เสียในวงพนันนับล้านบาท ในการชกแต่ละไฟต์
นอกจากนี้ยังมีนักมวยดาวรุ่งอีกหลายคนในค่าย ที่กำลังพุ่งขึ้นมา เช่น “เสือภูมิ สจ.โต้งปราจีน” มวยรุ่นเล็กที่ผงาดคว้าแชมป์รุ่น 100 ปอนด์ เวทีมวยสยามอ้อมน้อยมาครองสำเร็จ
“สจ.โต้ง”คลุกอยู่วงในวงการมวยมาตลอด ตั้งแต่ว่างเว้นจากการเป็น สจ. กระทั่งก่อนถูกยิงไม่กี่วัน ที่ว่ากันว่าเป็นการเข้ามาชมมวยรายการสุดท้ายของชีวิตก็คือ เมื่อวันที่10 ธ.ค.67 ที่ผ่านมาใน ศึกมวยมันส์สนั่นเมือง ที่เวทีมวยนานาชาติรังสิต
วันนั้น “สจ.โต้ง” มอบเงินอัดฉีดให้กับนักมวย 2 คน “น้ำพุ กอบหทัยราษฎร์” ที่เอาชนะน็อก “ปลายฟ้า ก๋วยบางคอแหลม” และอัดฉีด “เก้ากะรัต ส.เทียนโพธิ์” ที่ชนะคะแนน “เพชรวังหิน ลูกพระยาไกรภักดี”
เมื่อ “สจ.โต้ง” เจ้าของค่ายมวยและคนดังในวงการมวยจากไปอย่างไม่มีวันกลับอย่างไม่มีใครคาดคิด บรรดานักมวย และ คนในแวดวงจึงออกมาเคลื่อนไหวแสดงความอาลัย
“เสือคิม สจ.โต้งปราจีน” นักมวยชื่อดัง โพสต์ข้อความว่า ตอนนี้ผมสติหลุดมาก อย่าทักมาถามมาหาผมตอนนี้
“ฉัตรเพชร สจ.โต้งปราจีน” โพสต์ว่า เพิ่งคุยกับผมไปเอง ไม่จริงใช่มั้ย ลูกพี่ เปรียบเสมือนพ่อคนที่ 2 ของผม ดูแลผมทุกอย่าง ไม่เคยให้ขาดมือ ขอให้ลูกพี่หลับให้สบายนะครับ ลูกพี่จะอยู่ในใจผมตลอดไป รักและเคารพลูกพี่ตลอดไปครับ
“ก้าวหน้า สจ.โต้งปราจีน” โพสต์ระบุว่า สจ.โต้ง เปรียบเหมือนพ่อคนหนึ่งที่เคารพรัก ขอกราบแสดงความเสียใจกับการจากไปของลูกพี่ สจ.โต้งปราจีน ด้วย
ครับ อีกหนึ่งผู้มีพระคุณมากๆ ครับ ขอให้ลูกพี่ไปสู่ภพภูมิที่ดีครับ #ด้วยรักและอาลัยที่สุด
“เพชรนําโชค สจ.โต้งปราจีน” ใจหายมากครับ ขอให้ลูกพี่หลับให้สบายนะครับ ขอบคุณที่คอยดูแลเมตตาผมมาตลอด
“วันฉลอง สจ.โต้งปราจีน” โพสต์ อิโมจิเศร้า พร้อมโพสต์รูปคู่ สจ.โต้ง
ขณะที่ “เพชรโสภณ” ขอให้ลุงสจ.ไปสู่ภพภูมิที่ดีนะครับ รักและเคารพเสมือนพ่อคนนึง ขอบคุณที่ให้โอกาสเด็กคนนี้ ขอบคุณที่ดูแลผมมา ลุงสจ. จะอยู่ในใจผมเสมอ
นอกจากนักมวยในค่าย สจ.โต้งปราจีน แล้ว คนดังในแวดวงมวยอย่าง “เสี่ยโบ๊ท” ณัฐเดช วชิรรัตนวงศ์ โปรโมเตอร์แห่งค่ายเพชรยินดี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า ด้วยรักและอาลัย พี่ชายที่แสนดีของพวกเรา หลับให้สบายนะครับพี่รักและเคารพเสมอครับ นี่ก็เป็นความเคลื่อนไหวของนักมวยในค่าย และคนดังในแวดวงมวยที่รู้สึกต่อการจากไปของเจ้าของค่าย “สจ.โต้งปราจีน” ที่นับจากนี้ก็ต้องติดตามดูอนาคตของนักมวยในค่ายกันต่อไป
หลังเดินเกมการเมืองผิดพลาด ใช้ “นิติสงคราม” ดึง “เศรษฐา ทวีสิน” ลงจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรี แล้วหวังจะขึ้นไปนั่งแทน แต่ไม่สำเร็จ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ต้องขาดทุนย่อยยับ
เพราะเป็นการสร้างรอยแค้นให้ “ทักษิณ ชินวัตร” ผู้จัดการรัฐบาลตัวจริง ถึงขั้นลั่นวาจาว่า “รัฐบาลอุ๊งอิ๊งค์” ต้องไม่มีพรรคพลังประชารัฐ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล
และในที่สุดพรรคพลังประชารัฐ ก็ถูกเขี่ยออกไปเป็นฝ่ายค้าน
สภาพภายในพรรคพลังประชารัฐ จากที่แค่ระหองระแหง ก็แตกเป็นสองขั้ว โดยขั้วหนึ่งยังอยู่กับ “ลุงป้อม” มี สส. 20 คน ส่วนอีกขั้วเป็นกลุ่มของ “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ชื่อยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐ แต่ตัวไปสนับสนุนรัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” กลุ่มนี้ก็มี สส. 20 คนเช่นกัน
ด้วยกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมือง กลุ่มของ “ผู้กองฯ” จะย้ายไปอยู่พรรคใหม่ก็ไม่ได้ เพราะถ้าลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ก็ต้องสิ้นสภาพ สส.ไปด้วย เว้นแต่รอให้พรรคมีมติขับออก แล้วไปหาพรรคใหม่สังกัดภายใน 30 วัน จึงจะรักษาสถานภาพ สส. ไว้ได้
เรื่องก็เลยคาราคาซัง อิหลักอิเหลื่อ กันอยู่อย่างนี้ มาเป็นเวลาประมาณ 3 เดือนแล้ว
ในที่สุด เมื่อวานนี้ (12 ธ.ค.) ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ ก็ยกระเบียบข้อบังคับพรรค ที่ 54 (5) ว่าด้วยเรื่องอุดมการณ์ทางการเมืองไม่ตรงกัน มาใช้ในการขับ 20 สส. กลุ่มผู้กองธรรมนัสออกจากพรรค ไม่ใช่ขับออกเพราะผิดจริยธรรม หรือ ผิดวินัยร้ายแร
หลังจากนี้ กลุ่มผู้กองธรรมนัส ก็คงไปเข้าสังกัด “พรรคกล้าธรรม” ที่ได้ตั้งไว้รออยู่ก่อนแล้ว โดยมี “นฤมล ภิญโญสินวัฒน์” รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นหัวหน้าพรรค
หันมาดูพรรคพลังประชารัฐ ที่ขณะนี้ก็มี สส.เหลืออยู่ 20 คน แล้ว“ลุงป้อม” มีทีท่าว่าจะวางมือทางการเมืองหรือไม่
เพราะตั้งแต่มาเป็นฝ่ายค้าน อำนาจ บารมีหดหาย ชื่อเสียงตกต่ำ บริวารรอบตัวนำแต่เรื่องมัวหมอง เสียหาย มาให้ อนาคตทางการเมืองที่จะเดินไปให้ถึงเป้าหมายคือ เก้าอี้นายกรัฐมนตรี อย่าว่าแต่ริบหรี่เลย เรียกว่ามืดมน เลยดีกว่า
เรื่องนี้ “ไพบูลย์ นิติตะวัน” เลขาธิการพรรค ยืนยัน “ลุงป้อม” บอกว่า ไม่มีวางมือ ไม่มีเซ้งพรรค!!
ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค เพื่อขับ 20 สส. แม้ “ลุงป้อม” จะไม่ได้มาประชุม แต่ก็ได้กำชับว่า ให้ดูแลทุกอย่าง ปฏิบัติตามกฎข้อบังคับให้ครบถ้วน พรรคพลังประชารัฐ จะมั่นคงแข็งแรง
และในช่วงที่ผ่านมา 20 สส. ที่ยังอยู่กับ “ลุงป้อม” ก็ยังมีการประชุมกัน เพื่อวางแผนการทำงานในฐานะฝ่ายค้าน เพื่อตรวจสอบรัฐบาล ดูแลความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เช่น ภาคใต้ที่ประสบอุทกภัย “ลุงป้อม” ก็สั่งการให้ ส.ส. และคณะกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่ไปช่วยเหลือ
ขณะเดียวกันก็ยังสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ในเขตต่างๆทั่วประเทศ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งครั้งต่อไป
ยืนยัน “ลุงป้อม” พร้อมจะเป็นผู้นำพรรคในการเลือกตั้งครั้งหน้า และพรรคพลังประชารัฐ จะได้สส. มากกว่าเดิม
ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า เมื่อสัญญาณการเลือกตั้งมีขึ้น และบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนแปลงไป ถึงเวลานั้น “ลุงป้อม” จะยังฮึดสู้อยู่หรือไม่