Blackjack คือ เกมไพ่ชนิดหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากในคาสิโนทั่วโลก รวมถึงคาสิโนออนไลน์ เกมนี้เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า “21” (twenty-one) เนื่องจากเป้าหมายของเกมคือการมีไพ่ในมือที่มีค่ารวมใกล้เคียงหรือเท่ากับ 21 มากที่สุดโดยไม่ให้เกิน 21
Table of Contents
Toggleที่มาของเกมเดิมพนัน Blackjack
เกมแบล็คแจ็คมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและหลากหลาย มีต้นกำเนิดจากหลายแหล่งและมีการพัฒนามาเรื่อยๆ จนกลายเป็นเกมที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน
ที่มาของเกมแบล็คแจ็ค
- ยุโรปในศตวรรษที่ 17:
- เกมแบล็คแจ็คสืบทอดมาจากเกมไพ่ที่เล่นในยุโรปในช่วงศตวรรษที่ 17 หนึ่งในเกมที่เชื่อว่าเป็นต้นแบบคือเกม “Vingt-et-Un” (ฝรั่งเศสแปลว่า “ยี่สิบเอ็ด”) เกมนี้เริ่มเป็นที่รู้จักในฝรั่งเศสและแพร่หลายไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป
- ในเกม “Vingt-et-Un” กติกาคล้ายคลึงกับแบล็คแจ็คปัจจุบัน แต่มีบางกติกาที่แตกต่างกัน เช่น เจ้ามือสามารถเดิมพันได้หลังจากแต่ละรอบ
- สเปนในศตวรรษที่ 17:
- อีกหนึ่งเกมที่มีความคล้ายคลึงกับแบล็คแจ็คคือเกม “One and Thirty” ที่เล่นในสเปน ซึ่งเป้าหมายของเกมคือการทำให้ไพ่รวมในมือมีค่าเท่ากับ 31 ด้วยไพ่สามใบ
- การแพร่หลายไปยังอเมริกา:
- ในช่วงปลายศตวรรษที่ 18 และต้นศตวรรษที่ 19 เกม “Vingt-et-Un” ได้แพร่หลายไปยังอเมริกาโดยชาวฝรั่งเศสที่อพยพมายังทวีปนี้
- ในช่วงแรก เกมนี้ยังไม่เป็นที่นิยมในอเมริกา คาสิโนต่างๆ จึงสร้างแรงจูงใจให้ผู้เล่นมาเล่นโดยเสนอโบนัส เช่น การจ่ายเงิน 10 ต่อ 1 หากผู้เล่นได้รับไพ่เอซโพดำ (Ace of Spades) และแจ็คโพดำ (Blackjack) จากการรวมไพ่สองใบแรก นี่เป็นที่มาของชื่อ “แบล็คแจ็ค”
- การพัฒนาและความนิยมในศตวรรษที่ 20:
- ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 กติกาของแบล็คแจ็คได้รับการปรับปรุงให้เป็นมาตรฐานและง่ายขึ้น ทำให้เกมนี้เริ่มเป็นที่นิยมในคาสิโนต่างๆ
- ในปี 1950 และ 1960 การศึกษาและการเผยแพร่หนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์การเล่นแบล็คแจ็ค เช่น หนังสือ “Beat the Dealer” โดย Edward O. Thorp ซึ่งแนะนำการนับไพ่ ทำให้ความนิยมของเกมเพิ่มขึ้นอย่างมาก
- แบล็คแจ็คจึงเป็นเกมที่มีประวัติศาสตร์ที่หลากหลายและพัฒนามาจากหลายแหล่ง จนกลายเป็นเกมที่ได้รับความนิยมและเป็นที่รู้จักทั่วโลกในปัจจุบัน
กติกาเบื้องต้นของ Blackjack
- ผู้เล่นและเจ้ามือ: ในแต่ละรอบของเกม จะมีผู้เล่นหลายคนแข่งขันกับเจ้ามือ
- การแจกไพ่: ผู้เล่นแต่ละคนจะได้รับไพ่ 2 ใบ โดยไพ่ของผู้เล่นจะหงายขึ้น ส่วนเจ้ามือจะมีไพ่ 1 ใบหงายขึ้นและอีกใบคว่ำหน้า
- ค่าของไพ่:
- ไพ่หมายเลข 2-10 มีค่าตามหมายเลขบนไพ่
- ไพ่ J, Q, K มีค่าเท่ากับ 10
- ไพ่ A สามารถมีค่าเป็น 1 หรือ 11 ขึ้นอยู่กับว่าค่าใดจะเป็นประโยชน์ต่อมือของผู้เล่น
- การตัดสินใจของผู้เล่น: ผู้เล่นสามารถเลือกได้ว่าจะ “จั่ว” (hit) ไพ่เพิ่ม หรือ “หยุด” (stand) โดยไม่จั่วไพ่เพิ่ม หากผู้เล่นคิดว่าไพ่ในมือตนมีค่ารวมที่พอใจแล้ว
- การตัดสินใจของเจ้ามือ: เจ้ามือต้องจั่วไพ่เพิ่มจนกว่าไพ่ในมือจะมีค่ารวมอย่างน้อย 17
วิธีชนะในเกมแบล็คแจ็ค
- การชนะปกติ: ผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันในอัตรา 1:1
- ชนะด้วยแบล็คแจ็ค (ไพ่ A และไพ่ 10 หรือไพ่หน้า): ผู้เล่นจะได้รับเงินเดิมพันในอัตรา 3:2
- การวางเดิมพันประกัน (insurance) จะเกิดขึ้นเมื่อไพ่หงายของเจ้ามือเป็น A และผู้เล่นสามารถวางเดิมพันเพิ่มเพื่อลดความเสี่ยงในการเสียหากเจ้ามือได้แบล็คแจ็ค โดยมีอัตราการจ่าย 2:1
กลยุทธ์ในการเล่นแบล็คแจ็ค
การเล่นแบล็คแจ็คไม่เพียงแต่พึ่งพาโชคเท่านั้น แต่ยังต้องอาศัยกลยุทธ์ที่ดีในการตัดสินใจ เช่น การใช้ตารางกลยุทธ์พื้นฐาน (basic strategy) ที่บอกผู้เล่นว่าจะทำอะไรในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อเพิ่มโอกาสชนะ
เกมแบล็คแจ็คเป็นเกมที่น่าสนุกและท้าทาย ทำให้ผู้เล่นทั่วโลกนิยมเล่น ไม่ว่าจะเป็นในคาสิโนจริงหรือคาสิโนออนไลน์
การนับไพ่ Blackjack
การนับไพ่เป็นเทคนิคที่ใช้ในการจำไพ่ที่เล่นไปแล้ว เพื่อคาดเดาว่าไพ่ใบต่อไปจะเป็นอะไร ทำให้ผู้เล่นสามารถวางเดิมพันได้ถูกต้อง
- Hi-Lo Count: เป็นวิธีการนับไพ่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ไพ่ 2-6 นับเป็น +1, ไพ่ 7-9 นับเป็น 0, ไพ่ 10-A นับเป็น -1 ผู้เล่นต้องเพิ่มหรือลดแต้มตามนี้ในทุกครั้งที่มีการเปิดไพ่ใหม่
การจัดการเงิน (Bankroll Management)
การจัดการเงินเป็นสิ่งสำคัญในการเล่นแบล็คแจ็คเพื่อป้องกันการเสียเงินทั้งหมด
- ตั้งงบประมาณสำหรับการเล่นแต่ละครั้ง
- กำหนดขีดจำกัดการชนะและการแพ้ เมื่อถึงขีดจำกัดนั้นให้หยุดเล่นทันที
- ใช้ระบบการเดิมพันที่เหมาะสม เช่น การเดิมพันตามหน่วย (Unit Bet)